ขอให้ผู้ใฝ่ธรรมทุกท่านมีความสุขกายสุขใจเถิด

พระธรรม ๗ คัมภีร์

บทสวดพุทธมนต์(เเปล)
พระธรรม ๗ คัมภีร์
พระสังคิณี
กุสะลา ธัมมา,
ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล,
อะกุสะลา ธัมมา,
ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศล,
อัพ๎ยากะตา ธัมมา,
ธรรมทั้งหลายที่เป็นอัพยากฤต,
กะตะเม ธัมมา กุสะลา,
ธรรมเหล่าไหนเป็นกุศล,
ยัส๎มิง สะมะเย,
ในสมัยใด,
กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง โหติ,
กามาวจรกุศลจิต ที่สหรคต ด้วยโสมนัส,
โสมะนัสสะสะหะคะตัง ญาณะ สัมปะยุตตัง,
สัมปยุตด้วยญาณเกิดขึ้นปรารภอารมณ์ใดๆ,
รูปารัมมะณัง วา,
จะเป็นรูปารมณ์ก็ดี, (รูป)
สัททารัมมะณัง วา,
สัททารมณ์ก็ดี, (เสียง)
คันธารัมมะณัง วา,
คันธารมณ์ก็ดี, (กลิ่น)
ระสารัมมะณัง วา,
ระสารมณ์ก็ดี, (รส)
โผฏฐัพพารัมมะณัง วา,
โผฏฐัพพารมณ์ก็ดี, (สัมผัส)
ธัมมารัมมะณัง วา ยัง ยัง วาปะนารัพภะ,
ธรรมารมณ์ก็ดี,
ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโส โหติ,
ในสมัยนั้น ผัสสะความฟุ้งซ่านย่อมมี,
อะวิกเขโป โหติ,
อีกอย่างหนึ่ง ในสมัยนั้นธรรมเหล่าใด,
เยวาปะนะตัส๎มิง สะมะเย,
แม้อื่นมีอยู่ เป็นธรรมที่ไม่มีรูป,
อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะ สะมุปปันนา อะรูปิโน ธัมมา อิเม ธัมมา กุสะลา.
อาศัยกันและกันเกิดขึ้น ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล.

พระวิภังค์
ปัญจักขันธา,
ขันธ์ ๕ คือ,
รูปักขันโธ,
รูปขันธ์,
เวทะนากขันโธ,
เวทนาขันธ์,
สัญญากขันโธ,
สัญญาขันธ์,
สังขารักขันโธ,
สังขารขันธ์,
วิญญาณักขันโธ,
วิญญาณขันธ์,
ตัตถะ กะตะโม รูปักขันโธ,
บรรดาขันธ์ทั้งหมด รูปขันธ์เป็นอย่างไร,
ยังกิญจิ รูปัง,
รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง,
อะตีตานาคะตะปัจจุปปันนัง,
ที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน,
อัชฌัตตัง วา,
ภายในก็ตาม,
พะหิทธา วา,
ภายนอกก็ตาม,
โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา,
หยาบก็ตาม ละเอียดก็ตาม,
หีนังวา ปะณีตังวา,
เลวก็ตาม ประณีตก็ตาม,
ยัง ทูเรวา สันติเกวา,
อยู่ไกลก็ตาม อยู่ใกล้ก็ตาม,
ตะเทกัชฌัง อะภิสัญญู หิต๎วา อะภิสังขิปิต๎วา,
ย่นกล่าวรวมกัน,
อะยัง วุจจะติ รูปักขันโธ.
เรียกว่ารูปขันธ์.

พระธาตุกะถา
สังคะโห อะสังคะโห,
การสงเคราะห์ การไม่สงเคราะห์ คือ,
สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง,
สิ่งที่ไม่ให้สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์แล้ว,
อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง,
สิ่งที่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้,
สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง,
สิ่งที่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ได้,
อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง,
สิ่งที่ไม่สงเคราะห์เข้ากับสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้,
สัมปะโยโค วิปปะโยโค,
การอยู่ด้วยกัน การพลัดพราก คือ,
สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง,
การพลัดพรากจากสิ่งที่อยู่ด้วยกัน,
วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง อะสังคะหิตัง.
การอยู่ร่วมกับสิ่งที่พลัดพรากไป, จัดเป็นสิ่งที่สงเคราะห์ไม่ได้.

พระปุคคลบัญญัตติ
ฉะ ปัญญัตติโย,
บัญญัติ ๖ คือ,
ขันธะปัญญัตติ,
ขันธ์บัญญัติ,
อายะตะนะปัญญัตติ,
อายตนบัญญัติ,
ธาตุปัญญัตติ,
ธาตุบัญญัติ,
สัจจะปัญญัตติ,
สัจจะบัญญัติ,
อินท๎รียะปัญญัตติ,
อินทรีย์บัญญัติ,
ปุคคะละปัญญัตติ,
บุคคลบัญญัติ,
กิตตาวะตา ปุคคะลานัง ปุคคะละปัญญัตติ,
บุคคลบัญญัติของบุคคลมีเท่าไร,
สะมะยะวิมุตโต อะสะมะยะวิมุตโต,
มีการพ้นจากสิ่งที่ควรรู้, การพ้นจากสิ่งที่ไม่ควรรู้,
กุปปะธัมโม อะกุปปะธัมโม,
ผู้มีธรรมที่กำเริบได้, ผู้มีธรรมที่กำเริบไม่ได้,
ปะริหานะ ธัมโม อะปะริหานะ ธัมโม,
ผู้มีธรรมที่เสื่อมได้, ผู้มีธรรมที่เสื่อมไม่ได้,
เจตะนา ภัพโพ อะนุรักขะนา ภัพโพ,
ผู้มีธรรมที่ควรแก่เจตนา, ผู้มีธรรมที่ควรแก่การรักษา,
ปุถุชชะโน โคต๎ระภู,
ผู้เป็นปุถุชน ผู้รู้ตระกูลโคตร,
ภะยูปะระโต อะภะยูปะระโต,
ผู้เข้าถึงภัย, ผู้เข้าถึงอภัย,
ภัพพาคะมะโน อะภัพพาคะมะโน,
ผู้ไม่ถึงสิ่งที่ควร, ผู้ไม่ถึงสิ่งที่ไม่ควร,
นิยะโต อะนิยะโต,
ผู้เที่ยง ผู้ไม่เที่ยง,
ปะฏิปันนะโก ผะเลฏฐิโต,
ผู้ปฏิบัติ ผู้ตั้งอยู่ในผล,
อะระหา อะระหัตตายะ ปะฏิปันโน.
ผู้เป็นพระอรหันต์, ผู้ปฎิบัติเพื่อพระอรหันต์.

พระกถาวัตถุ
ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะ ปะระมัตเถนาติ,
(ถามว่า) ค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายที่แท้จริงหรือ,
อามันตา โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล,
(ตอบ) เออ! ค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือ โดยความหมายที่แท้จริง,
อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะ ปะระมัตเถนาติ,
(ถามว่า) ปรมัตถ์ คือความ หมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, ค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์ คือ โดยความหมายอันแท้จริงอันนั้นหรือ?
นะ เหวัง วัตตัพเพ อาชา นาหิ นิคคะหัง,
(ตอบ)ท่านไม่ควรกล่าวอย่างนี้, ท่านจงรู้นิคคะหะเถิด, ถ้าท่าน ค้นหาบุคคลไม่ได้โดยปรมัตถ์,
หัญจิ ปุคคะโล อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะปะระมัตเถนะ เตนะ วะตะเร วัตตัพเพ,
คือโดยความหมายอันแท้จริงแล้ว, ท่านก็ควรกล่าวด้วยเหตุนั้นว่าปรมัตถ์, คือความหมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, เราค้นหาบุคคลนั้นไม่ได้โดยปรมัตถ์คือโดยความหมายอันแท้จริงนั้น,
โย สัจฉิกัตโถ ปะระมัตโถ ตะโต โส ปุคคะโล, อุปะลัพภะติ สัจฉิกัตถะ ปะระมัตเถ นาติ มิจฉา.
คำตอบของท่าน ที่ว่าปรมัตถ์, คือความหมายอันแท้จริงอันใดมีอยู่, เราค้นหาบุคคลนั้นไม่ได้โดยปรมัตถ์, คือโดยความหมายอันแท้จริงอันนั้นจึงผิด.

พระยมก
เยเกจิ กุสะลา ธัมมา,
ธรรมบางเหล่าเป็นกุศล,
สัพเพเต กุสะละ มูลา,
ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดมีกุศลเป็นมูล,
เย วา ปะนะ กุสะละมูลา,
อีกอย่างหนึ่ง ธรรมเหล่าใด มีกุศลเป็นมูล,
สัพเพเต ธัมมา กุสะลา,
ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดก็เป็นกุศล,
เย เกจิกุสะลา ธัมมา,
ธรรมบางเหล่าเป็นกุศล,
สัพเพเต กุสะละมูเลนะ เอกะมูลา,
ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีอันเดียวกับธรรมที่มีกุศลเป็นมูล,
เย วา ปะนะ กุสะละ มูเลนะ เอกะมูลา,
อีกอย่างหนึ่ง ธรรมเหล่าใดมีมูลอันเดียวกับธรรมที่เป็นกุศล,
สัพเพเต ธัมมา กุสะลา.
ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดเป็นกุศล.

พระมหาปัฏฐาน
เหตุปัจจะโย,
ธรรมที่มีเหตุเป็นปัจจัย,
อารัมมะณะปัจจะโย,
ธรรมที่มีอารมณ์เป็นปัจจัย,
อะธิปะติปัจจะโย,
ธรรมที่มีอธิบดีเป็นปัจจัย,
อะนันตะระปัจจะโย,
ธรรมที่มีปัจจัยหาที่สุดมิได้,
สะมะนันตะระปัจจะโย,
ธรรมที่มีปัจจัยมีที่สุดเสมอกัน,
สะหะชาตะปัจจะโย,
ธรรมที่เกิดพร้อมกับปัจจัย,
อัญญะมัญญะปัจจะโย,
ธรรมที่เป็นปัจจัยของกันและกัน,
นิสสะยะปัจจะโย,
ธรรมที่มีนิสัยเป็นปัจจัย,
อุปะนิสสะยะปัจจะโย,
ธรรมที่มีอุปนิสัยเป็นปัจจัย,
ปุเรชาตะปัจจะโย,
ธรรมที่มีธรรมเกิดก่อนเป็นปัจจัย,
ปัจฉาชาตะปัจจะโย,
ธรรมที่มีธรรมเกิดภายหลังเป็นปัจจัย,
อาเสวะนะปัจจะโย,
ธรรมที่มีการเสพเป็นปัจจัย,
กัมมะปัจจะโย,
ธรรมที่มีกรรมเป็นปัจจัย,
วิปากะปัจจะโย,
ธรรมที่มีวิบากเป็นปัจจัย,
อาหาระปัจจะโย,
ธรรมที่มีอาหารเป็นปัจจัย,
อินท๎รียะปัจจะโย,
ธรรมที่มีอินทรีย์เป็นปัจจัย,
ฌานะปัจจะโย,
ธรรมที่มีฌานเป็นปัจจัย,
มัคคะปัจจะโย,
ธรรมที่มีมรรคเป็นปัจจัย,
สัมปะยุตตะปัจจะโย,
ธรรมที่มีการประกอบเป็นปัจจัย,
วิปปะยุตตะปัจจะโย,
ธรรมที่มีการไม่ประกอบเป็นปัจจัย,
อัตถิปัจจะโย,
ธรรมที่มีปัจจัย,
นัตถิปัจจะโย,
ธรรมที่ไม่มีปัจจัย,
วิคะตะปัจจะโย,
ธรรมที่มีการอยู่ปราศจากเป็นปัจจัย,
อะวิคะตะปัจจะโย.
ธรรมที่มีการอยู่ไม่ปราศจากเป็นปัจจัย.

คำชักบังสุกุลตาย
อะนิจจา วะตะสังขารา,
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ,
อุปปาทะวะยะธัมมิโน,
มีอันเกิดขึ้น และเสื่อมไปเป็นธรรมดา,
อุปปัชชิต๎วา นิรุชฌันติ,
เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป,
เตสัง วูปะสะโม สุโข,
ความเข้าไประงับแห่งสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเป็นสุข,
สัพเพ สัตตา มะรันติ จะ,
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่ตายอยู่ก็ดี,
มะริงสุ จะ มะริสสะเร,
และที่จะตายไปอีกก็ดี, ที่ตายไปแล้วก็ดี,
ตะเถวาหัง มะริสสามิ,
เราก็จะเป็นเช่นกับพวกท่านทั้งหลาย,
นัตถิ เม เอตถะ สังสะโย.
เราไม่สงสัยในความตายของเราเลย.

คำชักบังสุกุลเป็น
อะจิรัง วะตะยัง กาโย,
กายนี้มันไม่นานหนอ,
ปะฐะวิง อะธิเสสสะติ,
จักนอนทับซึ่งแผ่นดิน,
ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ,
มีวิญญาณไปปราศ อันบุคคลทิ้งเสียแล้ว,
นิรัตถัง วะกะลิง คะรัง.
ราวกับว่าท่อนฟืนไม่มีประโยชน์.

ธัมมะสังคิณีมาติกา
กุสะลา ธัมมา, อะกุสะลา ธัมมา, อัพ๎ยากะตา ธัมมาฯ,
สุขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา, ทุกขายะ เวทนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา, อะทุกขะมะสุขายะ, เวทะนายะ, สัมปะยุตตา ธัมมาฯ
วิปากา ธัมมา, วิปากะธัมมะธัมมา, เนวะวิปากะนะวิปากะ ธัมมะ ธัมมาฯ
อุปาทินนุปาทานิยา ธัมมา, อะนุปาทินนุปาทานิยา ธัมมา, อะนุปาทินนานุปาทานิยา ธัมมาฯ
สังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา, อะสังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา, อะสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกา ธัมมาฯ
สะวิตักกะสะวิจารา ธัมมา, อะวิตักกะวิจาระมัตตา ธัมมา, อะวิตักกาวิจารา ธัมมา,
ปีติสะหะคะตา ธัมมา, สุขะสะหะคะตา ธัมมา อุเปกขาสะหะคะตา ธัมมาฯ
ทัสสะเนนะ ปะหาตัพพา ธัมมา, ภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา, เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะ นายะ ปะหาตัพพา ธัมมาฯ,
ทัสสะเนนะ ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา, ภาวะนายะ ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา, เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะ ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมาฯ
อาจะยะคามิโน ธัมมา, อะปะจะยะคามิโน ธัมมา, เนวาจะยะคามิโน นาปะจะยะคามิโน ธัมมา
เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา, เนวะเสกขา นาเสกขา ธัมมาฯ
ปะริตตา ธัมมา, มะหัคคะตา ธัมมา อัปปะมาณา ธัมมาฯ
ปะริตตารัมมะณา ธัมมา, มะหัคคะตารัมมะณา ธัมมา, อัปปะมาณารัมมะณา ธัมมาฯ
หีนา ธัมมา, มัชฌิมา ธัมมา, ปะณีตา ธัมมาฯ
มิจฉัตตะนิยะตา ธัมมา, สัมมัตตะนิยะตา ธัมมา, อะนิยะตา ธัมมาฯ
มัคคารัมมะณา ธัมมา, มัคคะเหตุกา ธัมมา, มัคคาธิปะติโน ธัมมาฯ
อุปปันนา ธัมมา, อะนุปปันนา ธัมมา, อุปปาทิโน ธัมมาฯ
อะตีตา ธัมมา, อะนาคะตา ธัมมา, ปัจจุป ปันนา ธัมมาฯ,
อะตีตารัมมะณา ธัมมา, อะนาคะตารัมมะณา ธัมมา, ปัจจุปปันนารัมมะณา ธัมมาฯ
อัชฌัตตา ธัมมา, พะหิทธา ธัมมา, อัชฌัตตะ พะหิทธา ธัมมาฯ
อัชฌัตตารัมมะณา ธัมมา, พะหิทธารัมมะณา ธัมมา, อัชฌัตตะพะหิทธารัมมะณา ธัมมาฯ
สะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา, อะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา, อะนิทัสสะนาป ปะฏิฆา ธัมมาฯ.

พระสะหัสสะนัย สุทธิกะปะฏิปะทา
กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพ๎ยากะตา ธัมมา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิวิจเจวะ กาเมหิปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเมธัมมา กุสะลา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิตักกะวิจารานัง วูปะสะมา ทุติยัง ฌานัง ตะติยัง ฌานัง จะตุตถัง ฌานัง ปะฐะมัง ฌานัง ปัญจะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปา ภิญญัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา

สุญญะตะมูละกะปะฏิปะทา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะ คามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิวิจเจวะ กาเมหิปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุญญะตัง ทุกขา ปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง สุญญะตัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุญญะตัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง สุญญะตัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิตักกะวิจารานัง วูปะสะมา ทุติยัง ฌานัง ตะติยัง ฌานัง จะตุตถัง ฌานัง ปะฐะมัง ฌานัง ปัญจะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุญญะตัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง สุญญะตัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง สุญญะตัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง สุญญะตัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา

อัปปะณิหิตะปะฏิปะทา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิวิจเจวะ กาเมหิปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง อัปปะณิหิตัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง อัปปะณิหิตัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง อัปปะณิหิตัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง อัปปะณิหิตัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเยโลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิตักกะ วิจารานัง วูปะสะมา ทุติยัง ฌานัง ตะติยัง ฌานัง จะตุตถัง ฌานัง ปะฐะมัง ฌานัง ปัญจะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขา ปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง อัปปะณิหิตัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง อัปปะณิหิตัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง อัปปะณิหิตัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง อัปปะณิหิตัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโส โหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา

อธิปะติ
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะคามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิวิจเจวะ กาเมหิปะฐะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ฉันทาธิ ปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัต เตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา
กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎มิง สะมะเย โลกุตตะรัง ฌานัง ภาเวติ นิยยานิกัง อะปะจะยะ คามิง ทิฏฐิคะตานัง ปะหานายะ ปะฐะมายะ ภูมิยา ปัตติยา วิตักกะ วิจารานัง วูปะสะมา ทุติยัง ฌานัง ตะติยัง ฌานัง จะตุตถัง ฌานัง ปะฐะมัง ฌานัง ปัญจะมัง ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วิหะระติ ทุกขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง ทุกขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง สุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง สุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง อะทุกขะมะสุขาปะฏิปะทัง ทันธาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง อะทุกขะมะสุขาปะฏิปะทัง ขิปปาภิญญัง ฉันทาธิปัตเตยยัง วิริยาธิปัตเตยยัง จิตตาธิปัตเตยยัง วิมังสาธิปัตเตยยัง ตัส๎มิง สะมะเย ผัสโสโหติ อะวิกเขโป โหติ อิเม ธัมมา กุสะลา